
การตระหนักและรับรู้ของพ่อแม่เกี่ยวกับ การสูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ ของบุตรหลาน
การสูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ จากผลการสำรวจของกลุ่มกุมารเวชศาสตร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เรื่องการสูบบุหรี่ในกลุ่มเด็ก พบว่า มีผู้ปกครองประมาณ 70% ที่รู้ว่าบุตรหลานของตัวเองสูบบุหรี่ ในขณะที่ผู้ปกครองเพียง 40% รู้ว่าบุตรหลานของตัวเองสูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อมีการสอบถามกับพ่อแม่ผู้ปกครองเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ของบุตรหลาน หลายคนจะนึกถึงภาพของการสูบบุหรี่ที่เป็นกระดาษม้วน แต่จะไม่มีการพูดถึงภาพของบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์จะดูเหมือนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และไม่มีกลิ่นที่ติดตัวเหมือนกับบุหรี่แบบกระดาษม้วน บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์จะไม่มีกลิ่นแต่ก็ยังมีนิโคตินที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้เช่นเดียวกัน ซึ่งสารนิโคตินนี้ยังเป็นอันตรายอย่างมากต่อการพัฒนาสมองของวัยรุ่น

การสูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ ที่กำลังกลายเป็นโรคระบาดในหมู่วัยรุ่นเพิ่มมากขึ้น
มีการกล่าวว่าการสูบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์กำลังกลายเป็นโรคระบาดในหมู่วัยรุ่นของสหรับอเมริกาที่เพิ่มมากขึ้น ตามข้อมูลจากการสำรวจยาสูบเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งวิเคราะห์โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาในปี 2020 พบว่ามีนักเรียนมัธยมปลายประมาณ 3.02 ล้าน และนักเรียนมัธยมต้นประมาณ 550,000 คน เป็นผู้ใช้บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ และยังพบว่าในระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผู้ที่สูบบุหรี่แบบเดิมและบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์มีความเสี่ยงที่จะเป็นผู้ป่วยจากไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรงได้มากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่

โดยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐอเมริกาได้ร้องขอให้องค์การอาหารและยาทำการกวาดล้างตลาดบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับการใช้บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี

โดยการศึกษาเกี่ยวกับความสนใจของผู้ปกครองเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ของบุตรหลานของตนเอง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบุตรหลานในช่วงอายุ 12 ถึง 17 ปี จำนวนมากกว่า 23,000 คน พบว่า พ่อแม่และผู้ปกครองมีแนวโน้มที่จะรู้หรือสงสัยได้ว่าบุตรหลานของตนเองมีการสูบบุหรี่ทั้งแบบเดิมและแบบอิเล็กทรอนิกส์ และคนเป็นแม่จะรับรู้ได้มากกว่าพ่อ

นอกจากนี้ยังได้ทำการศึกษาความเป็นอยู่ของครอบครัวที่มีผลต่อการสูบบุหรี่ของเด็ก ก็จะพบว่าเด็กที่อาศัยอยู่ในบ้านที่มีกฎระเบียบเข้มงวดในเรื่องของการสูบบุหรี่จะมีโอกาสสูบบุหรี่น้อยกว่าเด็กที่อยู่ภายในสภาพแวดล้อมที่มีคนงานหรือบ้านที่มักจะมีแขกมาเยือนและมีการสูบบุหรี่ให้เห็นเป็นประจำ ดังนั้นจึงถือได้ว่าพ่อแม่คือแบบอย่างที่สำคัญของลูกๆ และบ้านควรจะต้องเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่อยู่เสมอ
ฝากกดติดตามการดูแลสุขภาพ
ข่าวสารสุขภาพที่น่าสนใจมะเร็งปอด รู้ทันป้องกันได้ เป็นโรคที่พบได้มากในประเทศไทย