อาการนอนไม่หลับ ทำไงดี ? .. 4 วิธีช่วยให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้น ปัญหาที่เกิดได้ทุกกเพศ ทุกวัน

อาการนอนไม่หลับ เป็นหนึ่งอาการที่พบได้บ่อยในทุกเพศ ทุกวัย ในปัจจุบัน อาจเพราะเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิตโดยการลดแรงต้านต่าง ๆ จากสิ่งรอบตัว เช่น เครียดเนื่องจากต้องเดินทางเป็นระยะเวลานาน เครียดเนื่องจากการเรียน เครียดจากงาน หรือเครียดจากปัญหาส่วนตัว ซึ่งความเครียดเหล่านี้สามารถสะสมจนส่งผลให้การนอนหลับของเราเป็นไปได้ยากทั้งสิ้น

โดยอาการนอนไม่หลับมักถูกมองจากคนที่ไม่ได้เผชิญหน้ากับอาการนี้ด้วยตัวเองว่า เป็นอาการที่ไม่เห็นมีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะแค่นอนไปเฉย ๆ เดี๋ยวมันก็ผล็อยหลับไปเอง แต่สำหรับคนที่เป็น อาการนอนไม่หลับนี้ถือว่าทรมานเอาการ เพราะส่งผลเสียกับร่างกายมากมาย อย่างตื่นเช้ามาแบบไม่สดใส หัวตื้อตันคิดงานไม่ออก อีกทั้งอาจลามถึงปัญหาสุขภาพผิว

4 วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ อาการนอนไม่หลับ ได้ดีเร็วขึ้นและนอนเต็มอิ่มมากกว่าเดิม

ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม

การเตรียมตัวก่อนนอนหลับเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ที่นอนไม่หลับ ดังนั้นก่อนเข้านอนคืนนี้ลองอาบน้ำอุ่นเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย ใส่ถุงเท้านอนเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น และลองปรับอุณหภูมิห้องให้อยู่ระหว่าง 24-26 องศาเซลเซียส ที่แม้อาจไม่เย็นถึงใจ แต่เมื่อเรานอนหลับร่างกายจะค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิลง ดังนั้นหากไม่อยากตื่นกลางดึกด้วยความหนาว ก็ควรปรับอุณหภูมิไว้เท่านี้ก็เพียงพอ

กลิ่นในห้องนอนก็สำคัญ

สิ่งหนึ่งสำหรับคนนอนไม่หลับมักมองข้ามนอกจากเสียง อุณหภูมิ หรือแสงไฟแล้วคือกลิ่น กลิ่นที่ดีสามารถช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย จิตใจปลอดโปร่ง พร้อมกระโดดลงหลุมนิทราไปอย่างนุ่มนวล โดยกลิ่นที่เวิร์กสำหรับนอนหลับคือกลิ่นลาเวนเดอร์ หรือดอกไม้อ่อน ๆ เพราะกลิ่นเหล่านี้ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตส่งผลให้ร่างกายพร้อมเข้าสู่ห้วงความฝันง่ายขึ้น

ตำแหน่งที่นอน

หากเป็นไปได้ลองมองหาฟูกที่มีขนาดใหญ่พอที่คุณสามารถกลิ้งซ้าย-ขวา โดยไม่กังวลว่าจะตกลงไป เพราะจะช่วยให้สมองจดจำว่านี่คือที่นอนที่เราสามารถผ่อนคลาย เอนกายได้อย่างแท้จริง ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่าหากขยับมากไปจะตกเอาได้ อีกทั้งตำแหน่งที่นอนไม่ควรอยู่บริเวณที่รับแสงแดดตลอดเวลา เนื่องจากบ้านเราเป็นเมืองร้อน พอตกกลางคืนบริเวณที่รับแสงแดดทั้งวันจะค่อย ๆ คลายความร้อนออกกมาส่งผลให้เรารู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ นอนหลับไม่สนิทได้

ห่างจากสัตว์เลี้ยงและมือถือ

ถึงจะรักสัตว์เลี้ยงตัวโปรดมากแค่ไหน หรือมีงานด่วนมากเพียงใด ก็ขอให้ห้องนอนเป็นห้องที่ปลอดจากทั้งสองอย่างนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนซนอาจนึกคึกอยากวิ่งเล่นจนทำให้เราตื่นขึ้นกลางดึก และแสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือยังรบกวนการนอนและขัดขวางการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน ทำให้ร่างกายเราสับสนแยกไม่ออกว่าตอนนี้กลางวันหรือกลางคืน ส่งผลให้ร่างกายยากที่จะนอนหลับได้อย่างสนิท

สามารถกดติดตาม การดูแลสุขภาพ และการแก้ไขปัญหาใน การนอนหลับยาก ในผู้สูงอายุ